หากคิดก้าวเข้าสู่โลกของการตลาดออนไลน์ก็จำเป็นต้องเข้าใจหลักการทำเว็บอย่างถูกต้อง ซึ่งเว็บไซต์ E-Commerce ก็ถือเป็นเว็บอีกประเภทที่เกิดขึ้นและกำลังเป็นกระแสในด้านการแข่งขันเพื่อหวังให้ตนเองครองใจผู้ใช้งานได้มากที่สุด ประเด็นสำคัญคือ อยากให้ทุก ๆ คนเข้าใจความหมายที่แท้จริงว่า เว็บไซต์ E-Commerce คืออะไร และสามารถทำ SEO ได้หรือไม่ เพื่อโอกาสในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของธุรกิจออนไลน์เมืองไทย ไม่ใช่แค่การมีหน้าเว็บไซต์หลักของธุรกิจ เวลาลูกค้าจะเปรียบเทียบหรือหาสินค้าอื่น ๆ ร่วมด้วยมันช่างยุ่งยากเหลือเกิน
เว็บไซต์ E-Commerce คืออะไร?
เว็บไซต์ E-Commerce คือ เว็บไซต์ประเภทหนึ่งที่มีจุดประสงค์สำคัญในการจำหน่ายสินค้า / บริการผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการรวบรวมสินค้าจากผู้จัดจำหน่ายหลาย ๆ เจ้าเอามาไว้ในเว็บเดียวเพื่อให้สะดวกต่อการซื้อของลูกค้า ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยเองมีกลุ่มธุรกิจประเภทนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ จนต้องมีการแข่งขันเพื่อให้เว็บของตนเองก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 1
ต้องการทำ SEO กับเว็บไซต์ E-Commerce ทำได้หรือไม่
จากการแข่งขันที่สูงส่งผลให้บรรดาเว็บ E-Commerce ทั้งหลายจำเป็นต้องหาวิธีในการดึงลูกค้าเข้ามายังหน้าเว็บของตนเองมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่น การโฆษณาผ่านช่องทางต่าง ๆ โดยใช้พรีเซนเตอร์ชื่อดัง, การให้ส่วนลด โปรโมชั่น เป็นต้น ซึ่งหลาย ๆ คนมีข้อสงสัยว่า แล้วถ้าเว็บ E-Commerce จะทำ SEO สามารถเป็นไปได้หรือไม่
คำตอบคือ ทุกเว็บไซต์สามารถทำ SEO ได้หมด ดังนั้นบรรดาเว็บ E-Commerce ก็ไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ เพียงแค่ต้องรู้ว่าควรทำอย่างไรเพื่อให้เว็บของตนเองสามารถติดอันดับเวลาผู้คนค้นหาสินค้าประเภทต่าง ๆ เท่านั้น นี่เองจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะบ่งบอกว่าเว็บเหล่านี้ประสบความสำเร็จในการทำ SEO หรือไม่
แนวทางเบื้องต้นของการทำ SEO โดยเว็บ E-Commerce
- ไม่จำเป็นต้องมีหน้าเว็บเยอะเกินไป
เข้าใจดีว่าเว็บ E-Commerce คือ การรวบรวมสินค้าจากหลาย ๆ แห่งเอามาไว้ที่เดียว หลายกิจการขายสินค้าประเภทเดียวกัน หรือถึงขั้นยี่ห้อเดียวกันด้วยซ้ำ การพยายามดึงเอาสินค้าที่ซ้ำกันออกจะช่วยให้ SEO เกิดผลลัพธ์ในเชิงบวกมากขึ้น
- ต้อง Mobile Friendly
พฤติกรรมของผู้ซื้อบนโลกออนไลน์ทุกวันนี้เน้นการเข้าดูผ่านมือถือมากขึ้น การทำ SEO ที่ดีจึงต้องรองรับแพลตฟอร์มนี้ด้วย
- ความเร็วของการเข้าเว็บ
เว็บไซต์ E-Commerce ที่ตอบโจทย์คือต้องไม่โหลดเข้าหน้าเว็บนาน ๆ เพราะจะทำให้คนรู้สึกไม่ชอบและไม่อยากกลับเข้ามาใช้งานอีก
- คีย์เวิร์ดที่ใช้งาน
ต้องรู้ว่าหมวดหมู่สินค้าที่ขายมีอะไรบ้าง แล้วดึงคีย์เวิร์ดแต่ละกลุ่มออกมา ซึ่งการใส่คีย์เวิร์ดในเนื้อหาเพื่อหวังให้คนเข้ามายังหน้าดังกล่าวต้องไม่เยอะหรืออัดแน่นจนเกินไป
ใครที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับ E-Commerce การสร้างเว็บไซต์ประเภทนี้ไม่ใช่เรื่องยาก แต่การจะทำให้เว็บติดอันดับ Google โดยที่คุณเสียเงินน้อยสุดต่างหากคือความท้าทาย
อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติม : https://www.iseo.in.th/th/สาระน่ารู้/
ติดต่อเรา : Line : @iseo(มี@ด้านหน้า)
